BIM (Building Information Modeling) คือ การปฏิวัติภาคการก่อสร้างที่ได้นำเสนอแบบจำลองข้อมูลอาคาร 3 มิติอัจฉริยะ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้มืออาชีพในด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการก่อสร้างสามารถวางแผน ออกแบบ ก่อสร้าง และจัดการโครงการอาคารและโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
BIM ก้าวข้ามข้อจำกัดของการใช้พิมพ์เขียวแบบดั้งเดิมและการออกแบบ 2D CAD โดยให้มุมมองเสมือนจริงของโปรเจคงานที่ครอบคลุมในทุกมิติ
อนาคตของการก่อสร้างโยธาจะถูกพลิกเป็นที่สุดด้วยการใช้ BIM ผู้รับเหมาก่อสร้างโยธาสามารถเห็นภาพโครงการทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องเริ่มต้นวางฐานรากด้วยซ้ำ นี่คือสิ่งที่ผู้รับเหมาก่อสร้างโยธาจะได้จากการใช้ BIM
การวางแผนและการทำงานแบบองค์รวม BIM เป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกรายตั้งแต่สถาปนิกไปจนถึงผู้รับเหมา สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นผ่านระบบคลาวด์
การลดความเสี่ยง ลักษณะการคาดการณ์ของ BIM ช่วยให้มั่นใจได้ว่าความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นจะถูกแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นข้อบกพร่องด้านการออกแบบหรือปัญหาด้านลอจิสติกส์
การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากกำลังคนไปจนถึงวัสดุ BIM ช่วยให้มั่นใจได้ว่าทรัพยากรจะถูกใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด ลดขยะหรือของเหลือทิ้งให้เหลือน้อยที่สุด และรับประกันว่าโครงการจะเสร็จสิ้นได้ทันเวลา
นี่คือ 5 ประโยชน์หลักของการนำ BIM ไปใช้สำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างโยธา
- การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ : BIM ทำหน้าที่เป็นทรัพยากรความรู้ที่ใช้ร่วมกัน ส่งเสริมการสื่อสารที่ดีขึ้นระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของโครงการ ความโปร่งใสนี้ช่วยให้แน่ใจว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับโครงการ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของข้อผิดพลาด เช่น การสื่อสารไม่เข้าใจกัน
- การประมาณต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ : ด้วยการแสดงภาพโครงการที่ชัดเจนล่วงหน้าก่อนเริ่มต้นก่อสร้าง ผู้รับเหมาสามารถให้การประมาณการที่แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งอาจมีความสำคัญในการประมูลและการคำนวณต้นทุนต่างๆ
- ลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น : ด้วยโครงสร้าง 3 มิติของ BIM ช่วยให้ผู้รับเหมาระบุการปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างขั้นตอนการออกแบบได้ ซึ่งช่วยลดโอกาสการหยุดชะงักระหว่างการก่อสร้างได้
- ความยั่งยืนและประสิทธิภาพ : BIM สามารถเป็นเครื่องมือในการสร้างแบบจำลองพลังงาน ซึ่งนำไปสู่การออกแบบที่ทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคุ้มค่า
รู้จักกับซอฟแวร์ BIM ที่ดีที่สุดในปี 2023
- Revit : ผลิตภัณฑ์ของ Autodesk Revit เป็นแถวหน้าของซอฟต์แวร์ BIM โดยมาพร้อมกับเครื่องมือสำหรับการออกแบบสถาปัตยกรรม MEP วิศวกรรมโครงสร้าง และการก่อสร้าง
- ArchiCAD : ArchiCAD เป็นที่รู้จักในด้านการออกแบบที่ใช้งานง่ายและความสามารถในการแสดงภาพอันทรงพลัง
- Navisworks : ซอฟต์แวร์นี้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบโครงการและมีการตรวจจับปัญหาภายในโครงสร้างต่างๆ ซึ่งช่วยในการบูรณาการโมเดลต่างๆ จากชุดซอฟต์แวร์ต่างๆ ได้อย่างราบรื่น
- Tekla Structures : Tekla มุ่งเน้นไปที่การออกแบบโครงสร้างโดยนำเสนอโมเดล 3D ที่มีรายละเอียดและสามารถสร้างได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้รับเหมาก่อสร้างโยธา
- OpenBuildings Designer จาก Bentley : ซอฟต์แวร์นี้พัฒนาขั้นตอนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และมาพร้อมกับรายละเอียดและความแม่นยำระดับสูงสุด