การศึกษาที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ (Artificial Intelligence: AI) มีแนวโน้มที่จะเริ่มต้นขึ้นด้วย 2 ประเภทที่มีผลกระทบที่แตกต่างกันอย่างมาก ประเภทแรกคล้ายกับแพลตฟอร์มการเรียนรู้ เช่น Khan Academy Duolingo GPT-4 และบริการอื่นๆ อีกมาก แต่ละอย่างให้ข้อมูลและประสบการณ์การเรียนรู้ที่แตกต่างกัน
เมื่อเวลาผ่านไป แพลตฟอร์มเหล่านี้ก็ก้าวไปสู่รูปแบบมัลติมีเดียมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การให้คำตอบที่ลึกซึ้งมากขึ้น การสร้างแบบทดสอบและฝึกหัดที่มีความหลากหลาย และการปรับการเรียนรู้ให้เข้ากับแต่ละบุคคล เช่นการให้เลือกการศึกษาผ่านวิดีโอ ข้อความ หรือการพูด และแม้กระทั่งการปรับความเร็วของการเรียนรู้ ปัจจุบันบางบริการ เช่น Khan Academy เสนอฟรี ในขณะที่ GPT-4 เรียกเก็บค่าบริการประมาณ 20 ดอลลาร์ต่อเดือน แน่นอนว่าตลาดนี้จะเห็นการแข่งขันเพิ่มขึ้นในอนาคต
แชตบอตอาจทําให้การเรียนรู้เป็นสนุกขึ้น
แต่คนส่วนใหญ่ยังคงสงสัยว่า AI จะสอนสนุกขนาดไหน เนื่องจากมนุษย์มีความต้องการในการเชื่อมโยงและปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น แชตบอต AI สำหรับการศึกษาอาจจะไม่สามารถให้ประสบการณ์ที่สนุกสนานเท่ากับการเรียนที่มีการสื่อสารแบบปกติ
แชตบอต AI สามารถเป็นที่ช่วยของครูในการให้คำแนะนำแบบรายบุคคลมากขึ้น แต่ไม่สามารถแทนที่รูปแบบการเรียนรู้ได้ทั้งหมด แต่สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุด คือ แชตบอต AI ที่ถูกโปรแกรมให้เป็นเพื่อนของเด็ก ซึ่งจะเป็นเพื่อนที่เด็กต้องการ เข้าใจเฉพาะลูกของคุณและสามารถสอนสิ่งที่มีค่าให้กับเด็กได้ แม้ว่าการเดินทางนี้จะต้องใช้เวลา แต่มันมีความสำคัญมากในการพัฒนาเด็ก
แชตบอต AI จะมีประสิทธิภาพมากที่สุด ผ่านโมเดล friendship-first
ในตอนนั้น แชตบอต AI ไม่จําเป็นต้องเป็นเพื่อนที่สนุกกว่าการใช้เวลากับเพื่อนๆ เพราะเอไอจะดึงดูดเด็กๆ ให้สนใจหัวข้อบางหัวข้อที่แชตบอต AI หยิบยกขึ้นมาได้ และแชตบอตสามารถให้ข้อมูลและแรงบันดาลใจ
พ่อแม่หลายอาจจะรู้สึกแปลกๆ ในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างแชตบอต AI อย่างไรก็ตาม โมเดล friendship-first เป็นสูตรที่มีแนวโน้มมากที่สุดสําหรับการศึกษาที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอ และคําถามที่ใหญ่กว่าอาจไม่ใช่ว่ามันจะได้ผลหรือไม่ แต่พ่อแม่สบายใจกับรูปแบบการศึกษาผ่านเอไอแค่ไหน
สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.bangkokbiznews.com/tech/innovation/1111747