การออกแบบคลังเก็บสินค้าอย่างไรให้ปลอดภัย

การแยกการจราจรของคนเดินเท้าและยานพาหนะ

คลังสินค้าควรได้รับการออกแบบให้มีทางเดินแยกสำหรับคนเดินเท้าและยานพาหนะ (เช่น รถยก) เพื่อลดโอกาสการชนกันและความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งอาจรวมถึงสิ่งกีดขวางทางกายภาพ ทางเดินที่กำหนดพร้อมเครื่องหมายความปลอดภัย และป้ายที่ชัดเจน

ทัศนวิสัยที่ชัดเจน

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทางแยก ทางเดิน รวมไปถึงทางจราจรทั้งหมดภายในคลังสินค้าได้รับการออกแบบเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจน ซึ่งอาจรวมถึงการติดตั้งกระจกนูนที่มุมบอดของเส้นทางต่างๆ ติดป้ายหยุด และทำเครื่องหมายทางม้าลายบนพื้นอย่างชัดเจน เพื่อให้พนักงานสามารถเดินข้ามเลนต่างๆ ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังต้องบังคับใช้มาตรการเกี่ยวกับทางม้าลายอย่างชัดเจน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีความปลอดภัยในการทำงานสำหรับทุกภาคส่วน

แสงสว่างที่เพียงพอ

ระดับแสงสว่างควรเป็นไปตามข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับการดำเนินงานคลังสินค้า ซึ่งอ้างอิงจาก Illuminating Engineering Society จำเป็นต้องอยู่ในระดับ 20 ถึง 50 ฟุตเทียน (215 ถึง 540 ลักซ์) ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของงาน พื้นที่ที่ต้องการการทำงานที่มีรายละเอียดมากขึ้นอาจต้องใช้ระดับแสงสว่างที่สูงขึ้น ซึ่งการขาดแสงสว่างไม่เพียงแต่ทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจนเท่านั้น แต่ยังทำให้อาจจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอีกด้วย

ทางเดินที่กว้างขวาง

ความกว้างของทางเดินควรรองรับยานพาหนะขนาดใหญ่ที่ใช้ในคลังสินค้าอย่าง รถยก (หากมีการใช้งานรถยกผู้ปฏิบัติงานต้องผ่านการ อบรมโฟล์คลิฟท์ ตามชนิดที่ใช้งานก่อน) โดยมีพื้นที่เพิ่มเติมเพื่อความคล่องตัวที่ปลอดภัย OSHA แนะนำความกว้างของทางเดินให้กว้างกว่ายานพาหนะที่ใหญ่ที่สุดอย่างน้อย 4 ฟุต หรือ 3 ฟุตที่ด้านใดด้านหนึ่งของรถเพื่อความปลอดภัยของคนเดินเท้า

การออกแบบพื้นที่การจัดเก็บที่เหมาะสม

ระบบชั้นวางและชั้นวางควรได้รับการออกแบบให้เหมาะกับน้ำหนักและขนาดของสิ่งของที่จัดเก็บ โดยมีสิ่งของที่มีน้ำหนักมากกว่าอยู่บนชั้นวางด้านล่างเพื่อลดความเสี่ยงของการพลิกคว่ำ การออกแบบควรเป็นไปตามมาตรฐานในระดับสากล เช่น มาตรฐานจาก Rack Manufacturing Institute (RMI) หรือเทียบเท่า

ทางออกฉุกเฉินและอุปกรณ์

ทางออกฉุกเฉินควรมีเครื่องหมายชัดเจน ไม่มีสิ่งกีดขวาง และมีแสงสว่างเพียงพอ อุปกรณ์ความปลอดภัยจากอัคคีภัย รวมถึงถังดับเพลิงและสปริงเกอร์ ควรเข้าถึงได้ง่ายทั่วทั้งคลังสินค้า แผนผังควรเป็นไปตาม NFPA 101, Life Safety Code สำหรับเส้นทางทางออกและการวางแผนฉุกเฉิน

คุณภาพพื้นและเครื่องหมาย

พื้นควรเรียบสม่ำเสมอ ปราศจากรอยแตกและหลุมบ่อ และเคลือบกันลื่นในบริเวณที่เสี่ยงต่อการหกรั่วไหล เครื่องหมายความปลอดภัยควรระบุถึงทางเดินเท้า ช่องทางยานพาหนะ และพื้นที่ที่อาจเป็นอันตราย (เช่น พื้นที่ใกล้เครื่องจักรหรือเขตที่มีการจราจรหนาแน่น)

ระบบระบายอากาศ

การระบายอากาศที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคลังสินค้าที่เก็บสารเคมีหรือวัตถุอันตรายอื่นๆ ระบบระบายอากาศควรได้รับการออกแบบเพื่อกำจัดควันพิษและจ่ายอากาศบริสุทธิ์ เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดโดย ASHRAE (American Society of Heating, Refrigerating and Air-Conditioning Engineers) สำหรับพื้นที่อุตสาหกรรม

พื้นที่อุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุ

พื้นที่ที่กำหนดสำหรับสถานีชาร์จ การบำรุงรักษา และการจัดเก็บอุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุควรแยกออกจากการดำเนินงานคลังสินค้าทั่วไปเพื่อป้องกันความแออัดและลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ

สถานที่ทำงานตามหลักสรีรศาสตร์

พื้นที่บรรจุและประกอบควรได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงหลักสรีระศาสตร์ เพื่อป้องกันความเครียดและการบาดเจ็บ ซึ่งรวมถึงโต๊ะทำงานแบบปรับความสูงได้ พื้นที่เพียงพอสำหรับการเคลื่อนย้าย และเครื่องมือและวัสดุที่เข้าถึงได้ง่าย